ค้นหา

CNC มือสอง

การเลือกซื้อเครื่อง CNC มือสอง

กล่าวถึงเครื่อง CNC ผมเชื่อว่าในวงการอุตสาหกรรมมากกว่า 90% (แต่อาจะเรียกถูกบ้างไม่ถูกบ้างว่าเป็นเครื่องประเภทไหน) แต่ที่แน่ๆ ครับ ราคาแพง. ดังนั้นการเลือกที่จะลงทุนในการซื้อเครื่อง CNC มาเพื่อผลิตชิ้นงานนั้น ต้องคิดแล้ว คิดอีก ว่าจะคุ้มทุนหรือไม่ อีกทั้งเรื่องของราคาชิ้นส่วน, การซ่อมบำรุงรักษาที่มีค่าใช้จ่ายที่แพงตามไปด้วย.

การซื้อเครื่อง CNC เครื่องใหม่หรือมือหนึงนั้นก็เป็นการจัดปัญหาจุกๆจิกๆ ตามที่กล่าวมานั้นได้เกือบทั้งหมดเนื่องจากมีอายุการใช้งานของชิ้นงานในระยะที่สามารถคืนทุนได้ (ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุ เช่น  เครื่องชน) การประกันเครื่องจักรก็ทำให้อุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง
แต่ราคาสิครับ ราคาที่แพงที่ต้องจ่ายไปเพื่อแลกกับสิ่งเหล่านั้น จึงเป็นที่มาของเครื่อง CNC มือสอง ซึ่งมีราคาถูกลงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ผ่านมาเป็นหลัก แต่จะซื้ออย่างไรไม่ให้ถูกหลอกนี่สิครับไม่ว่าจะหลอกทางตรงหรือหลอกทางอ้อม
การถูกหลอกทางตรงบ้านเราก็เรียก “ย้อมแมว” นี่แหละครับ ส่วนการถูกหลอกทางอ้อมก็น่าจะเป็นในลักษณะของผู้ขายเครื่อง CNC มือสองก็ไม่รู้ความสึกหรอหรือปัญหาของเครื่อง CNC มือสองด้วยเช่นกัน อาจเป็นความพกร่องที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของอายุการใช้งานของเครื่องจักรและชิ้นส่วนต่างๆ ที่ลดลงหรือหมดไป.

การเลือกซื้อเครื่อง CNC มือสองนั้นมีหลักง่ายๆ ดังนี้

1.เลือกยี่ห้อของเครื่อง CNC (CNC Maker) 

เครื่อง CNC แต่ละยี่ห้อถูกออกแบบและใช้ Know how ที่แตกต่างกันทำให้ความคงทนและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน จะเห็นชัดเจนมากเมื่อผ่านการใช้งานไปในระดับหนึ่ง
โดยส่วนมากแล้วเครื่องจักรที่เป็นผู้ผลิตจากทางค่ายญี่ปุ่น เช่น Mori Seiki, Mazak เป็นเครื่อง CNC ที่มีคุณภาพดีและการใช้งานที่หลากหลายและได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป โดยเฉพาะเครื่องของ Mori Seiki จะใช้ชุด Control ของ Fanuc ซึ่งการควบคุมทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน พบปัญหาน้อย. นอกจากนี้ข้อดีอื่นก็จะมี อะไหล่หาง่ายเพราะมีใช้งานอยู่ทั่วไปทำให้ตัวแทนจำหน่ายชิ้นส่วนหรือศูนย์บริการมีการทำสต๊อกอะไหล่ไว้ด้วย, การซ่อมบำรุงก็ทำได้ง่าย การบริการก็รวดเร็ว เพราะมีช่างที่สามารถซ่อมได้อยาพอสมควร
ข้อเสียของเครื่อง CNC มือสองจากค่ายญี่ปุ่นเห็นจะมีหลักๆ อยู่ข้อเดียวเมื่อเทียบกับเครื่องจากไต้หวันก็คือ ราคาที่แพงกกว่าครับ
ส่วนเครื่อง CNC มือสองจากค่ายไต้หวันซึ่งจะมีข้อดีของเรื่องราคาที่ถูกกว่าเครื่อง CNC มือสองจากค่ายญี่ปุ่นค่อนข้างมาก แต่ก็ต้องแลกกับปัญหาจุกๆ จิกๆ และความเสี่ยงต่างๆ เช่น ชุด Control และปัญหา Software เฉพาะผู้ผลิต ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาการ Service ค่อนข้างช้าต้องรอทีม service จากผู้ผลิตในต่างประเทศเท่านั้น (อันนี้เจอกับตัวเองแล้วนะครับ) ซึ่งส่งผลกระทาบต่อกระกระบวนการผลิตค่อนข้างมาก รวมทั้งอะไหล่ก็หายากด้วยเช่นกัน

2.การซ่อมบำรุงรักษา  (Maintenance)

เครื่องจากญี่ปุ่น หาอะไหล่ง่ายกว่า, ช่างซ่อมมีเยอะกว่า, ศูนย์บริการมีมากกว่า, อะไหล่มีความคงทนกว่า แต่ก้มีราคาแพงกว่าจากทางไต้หวันและอื่นๆ เช่น ยุโรป , อเมริกา.

3.ราคาของเครื่อง CNC มือสอง (Second Hand CNC Machine)

ผมไม่อยากจะตัดสินว่าถูกหรือแพงกว่าจะดีกว่า ให้พิจารณาตามความคุมค่าของการลงทุนดีกว่าครับ เพราะต้องดูปัจจัยหลายๆ ประกอบด้วย เช่น บางครั้งก็ต้องยอมซื้อเครื่องที่แพงขึ้นมาจากตลาดอาจเนื่องมากจากความเร่งด่วนเพื่อมาให้ทันต่อการผลิตชิ้นงานให้กับลูกค้า เป็นต้น

4.การรับประกัน (Warranty)

โดยส่วนมากแล้วการรับประกันอายุการใช้งานของเครื่อง CNC มือสองนั้นจะไม่นานหรืออาจจะไม่มีเลย หรือถ้ามีการรับประกันก็อาจจะรับประกันบางชิ้นส่วนเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปติไม่ใช่มีเฉพาะในวงการ CNC เท่านั้น
5.ประสิทธิภาพและความแม่นยำของเครื่อง CNC มือสอง (Efficiency & Accuracy of Machine)
ประสิทธิภาพและความแม่นยำของเครื่องจักรนั้น ลักษณะความข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์รวมถึงปริมาณการผลิตที่ต้องการนั้นจะเป็นกำหนดว่าเครื่อง CNC มือสองนั้นจะสามารถรองรับความต้องการได้หรือไม่.

ท้ายนี้ผมก็ฝากให้พิจารณาให้รอบคอบนะครับ ควรมีการศึกษาข้อมูลให้ดีและปรึกษาผู้ชำนาญการเฉพาะด้านจะดีที่สุด เพราะให้เกิดความคุมคุ้มค่ากับการลงทุนกับ “เครื่อง CNC มือสอง” ที่ดีที่สุด.