1.ช่วยเพิ่มผลผลิต
เครื่องจักร CNC สามารถทำงานได้เร็วกว่าเครื่องจักรที่ควบคุมแบบ manual ครับ. เอาง่ายๆ ว่า ถ้าคุณกำลังทำงานกับเครื่องจักรแบบ manual อยู่ คุณสามารถที่จะไปดื่มน้ำ, เข้าห้องน้ำ หรือไปทำอย่างอื่นได้มั๊ย ซึ่งบางคนอาจจะตอบว่าไม่ ก็ถูกนะครับ แต่ก็คงจะเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น โดยส่วนมากแล้วพนักงานจะต้องปิดเครื่องก่อน หรือไม่ก็อาจจะแค่เปิดเครื่องให้ spindle หมุนไว้เท่านั้น ส่วนการเคลื่อนไหวตัดเฉือนชิ้นงานคงทำไม่ได้ ทำให้ไม่ผลผลิตออกมาในระหว่างที่คุณไปทำกิจกรรมอย่างอื่น
ถ้าเป็นเครื่องจักร CNC ล่ะ!!! ก็จะตรงกันข้ามกันเลยนะครับ ในระหว่างที่เครื่องจักรกำลังรันชิ้นงานด้วยโปรแกรมอยู่นั้น คุณสามารถไปทำอะไรก็ได้ หรือสามารถควยคุมเครื่องจักรได้มากกว่าหนึ่งเครื่อง. สามารถตรวจสอบชิ้นงานได้ นี่ขนาดยังไม่รวมความเร็วในการทำงานนะครับ เครื่องจักรแบบ manual พนักงานต้องใช้ความจำและใช้ทักษณะในการควบคุมการเคลื่อนที่ของเครื่องจักรอยู่ตลอดเวลา ทักษะสูงก็ทำงานได้เร็ว ทักษะต่ำก็ทำงานได้ช้า แต่ใครล่ะจะทักษะสูงแต่ไม่เหนื่อย ไม่ลืม ข้อนี้เห็นชัดเจนเลยครับว่าเครื่องจักร CNC ก็ต้องจำเหมือนกัน แต่จำด้วยโปรแกรมยังไงก็เหมือนเดิมครับถ้าหากว่าไม่มีใครไปแอบเปลี่ยนแก้โปรแกรม เพราะฉะนั้นความเร็วในการทำงานด้วยเครื่องจักร CNC จะเร็วกว่าการทำงานกับเครื่องจักร manual หลายเท่าตัว ยิ่งจำนวนที่ผลิตมากขึ้นเท่าไหร่ความแตกต่างระหว่างอัตราผลผลิตระหว่างเครื่องจักร CNC กับเครื่องจักรแบบ manual ก็จะต่างกันมากขึ้นเท่านั้น
2.ความแม่นยำในการผลิต
เครื่องจักร manual ป้อนกินชิ้นงานด้วยมือ การที่จะทำให้ชิ้นงานได้ค่าความแม่นยำหรือความละเอียดสูงนั้นต้องใช้ทักษะที่สูงและใช้เวลานานในการปฏิบัติงาน อีกอย่างคุณภาพในการทำงานในแต่ละรอบก็ไม่เท่ากันด้วย ค่าความแม่นยำโดยเฉลี่ยแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 0.02-0.05 ส่วนเครื่องจักร CNC นั้นสามารถทำงานทำงานที่ละเอียดสูงกว่า 0.005 แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการตัดด้วยเช่นกัน และการทำงานในแต่ละรอบภายใต้เงื่อนไขในการตัดแบบเดียวกันคุณภาพของชิ้นงานก็แทบจะเท่ากัน
3.ลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน
การที่เครื่องจักร CNC สามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติ ทำให้พนักงาน 1 คน สามารถที่จะควบคุมเครื่องจักรได้มากกว่า 1 เครื่องขึ้นอยู่กับเวลา cycle time ของแต่ละโปรแกรม ซึ่งตรงนี้เองทำให้สามารถลดค่าจ่ายด้านแรงงานลงได้ แต่ต้องระวังการต่อต้านจากพนักงานด้วยนะครับโดยเฉพาะโรงงานที่ใช้เครื่องจักรแบบ manual มาก่อนแล้วมาเปลี่ยนใช้เป็นเครื่องจักร CNC ทีหลัง
4.ลดค่าใช้จ่ายด้านการตรวจสอบชิ้นงาน
ชิ้นงานแต่ละชิ้นงานที่ออกมาจากเครื่องจักร CNC เครื่องเดียวกัน โปรแกรมเดียวกัน เงื่อนไขในการทำงานที่เหมือนกัน ก็แทบจะเหมือนกัน ยกเว้นช่วงที่ cutting tool มีการสึกหรอ อาจจีค่าแตกต่างกันไปบ้าง แต่หากการควบคุม *tool life ของ cutting tool มีการควบคุมการเปลี่ยนอย่างแม่นยำก็แทบจะไม่มีผลที่แตกต่างด้านคุณภาพ ดังนั้นการตรวจสอบชิ้นงานโดยส่วนมากแล้วจะเป็นเพียงการสุ่มตรวจเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ 100% ยกเว้นจุดที่สำคัญมากจริงๆ หรือลูกค้ากำหนดมาให้
*tool life หมายถึง อายุการใช้งานของ cutting tool เช่น ดอกสว่าน 1 ดอก สามารถเจาะรูได้ 1000 รู ดังนั้น เมื่อมีการใช้งานเจาะครบ 1000 รูแล้วก็จะมีการเปลี่ยนดอกสว่านก่อนที่จะมีการสึกหรือมากกว่านี้และส่งผลกระทบต่อขนาดของชิ้นงานที่อาจหลุดสเปคได้
4.สามารถวางแผนการผลิตได้แม่นยำ
ถ้าผมเป็นฝ่ายวางแผนการผลิตจะดีมากเลยถ้าโรงงานใช้เครื่องจักร CNC ทั้งหมดเนื่องจากสามารถวางแผนการผลิตได้ง่าย เหตุผลคือเวลา cycle time ที่แน่นอน สามารถนำไปคำนวณตามสูตรโดยบวกค่าเผื่อต่างๆ เข้าก็จะทราบเวลาในการผลิตและหาค่าเวลามาตรฐาน ได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้แผนการผลิตมีความแม่นยำมากขึ้น.
แต่ถ้าเป็นเครื่องจักร CNC ลองนึกภาพดูนะครับ สมมติ วางแผนไว้ว่า 1 ชั่วโมงสามารถผลิตชิ้นงานได้ 1000 ชิ้น ปรากฏว่าพนักงานมีการอู้งาน, ป่วย หรือไม่ก็เหนื่อยมาก ทำให้ค่าเวลามาตรฐานไม่แน่นอน การวางแผนการผลิตก็ไม่แน่นอนตามไปด้วย
จริงๆ แล้วข้อดีของเครื่องจักร CNC เยอะกว่านี้นะครับ แต่ส่วนที่กล่าวมาผมจะเห็นบ่อยๆ และชัดเจนก็เลยนำมาแชร์ประสบการณ์
ส่วนข้อเสียนั้นไม่ขอพูดถึงแล้วกันนะครับ ถ้าจะบอกว่าราคาแพงก็ไม่ใช่ เนื่องจากว่าก่อนซื้อเราต้องมีการคำนวณแล้วจุดคุ้มทุนอยู่ที่เท่าไหร่และเมื่อไหร่.
ไว้มีเวลาจะมาเล่าใหม่นะครับ...